"หลักความรวดเร็วและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน"
เมื่อพิจารณาศึกษาถึง “การพิจารณาทางปกครอง” ในปัจจุบันได้วางหลักที่สำคัญ คือ “หลักความรวดเร็วและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน” และได้มีการตรา“พระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558”ได้กำหนดถึงหลักเกณฑ์การอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่จะต้องขออนุญาตจากส่วนราชการ โดยให้ส่วนราชการกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาต การจดทะเบียนหรือการแจ้งที่มีกฎหมายหรือกฎกำหนดให้ต้องขออนุญาตจดทะเบียนหรือแจ้ง ให้ประชาชนทราบก่อนจะดำเนินการใด โดยเหตุผลการประกาศใช้พระราชบัญญัติดังกล่าวนี้ คือ “โดยในปัจจุบันมีกฎหมายว่าด้วยการอนุญาตจำนวนมาก การประกอบกิจการของประชาชนจะต้องขออนุญาตจากส่วนราชการหลายแห่ง อีกทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตบางฉบับไม่ได้กำหนดระยะเวลา เอกสารและหลักฐานที่จำเป็น รวมทั้งขั้นตอนในการพิจารณาไว้ทำให้เป็นอุปสรรคต่อประชาชนในการยื่นคำขออนุญาตดำเนินการต่าง ๆ ดังนั้น เพื่อให้มีกฎหมายกลางที่จะกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาตและมีการจัดตั้งศูนย์บริการร่วมเพื่อรับคำร้องและศูนย์รับคำอนุญาต ณ จุดเดียวเพื่อให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการอนุญาตซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้”
จะเห็นได้ว่า พระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 เป็นกฎหมายกลางกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาต สำหรับการใช้อำนาจหน้าที่ในทางปกครองของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเกี่ยวกับการกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาต การจดทะเบียนหรือการแจ้งที่มีกฎหมายหรือกฎกำหนดให้ต้องขออนุญาต จดทะเบียนหรือแจ้ง ให้ประชาชนทราบก่อนจะดำเนินการใด หากมีกฎหมายเฉพาะกำหนดหลักเกณฑ์เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองก็จะต้องปฏิบัติไปตามกฎหมายเฉพาะนั้น เว้นแต่กรณีที่ไม่มีกฎหมายเฉพาะกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าวไว้หรือมีกฎหมายเฉพาะแต่หลักเกณฑ์ดังกล่าวมีลักษณะที่ประกันความเป็นธรรมไว้ต่ำกว่าหลักเกณฑ์ที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งเมื่อพิจารณาศึกษาถึงเนื้อหาของพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของราชการ พ.ศ. 2558 ได้กำหนดให้มีหน่วยงานราชการที่มีกฎหมายกำหนดให้กระทำใดจะต้องได้รับอนุญาต ผู้อนุญาตจะต้องจัดทำคู่มือสำหรับประชาชน ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข และในกรณีจำเป็นและสมควรเพื่อประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้คณะรัฐมนตรีมีมติจัดตั้งศูนย์รับคำขออนุญาต เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการรับคำขอตามกฎหมายว่าด้วยการอนุญาตขึ้น โดยให้ศูนย์รับคำขออนุญาตมีฐานะเป็นส่วนราชการ ตามมาตรา 18 วรรค 4 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 โดยสังกัดอยู่สำนักนายกรัฐมนตรีและจะให้มีสาขาของศูนย์ประจำกระทรวงหรือประจำจังหวัดด้วยก็ได้